Case Discussion#3 : Dollar General Uses Integrated Software

1. Explain why the old, nonintegrated functional system created problems for the company. Be specific.

        เนื่องจาก Dollar General มีการขยายธุรกิจอย่างรวดเร็ว โดยมีการขยายไปยังประเทศต่างๆ จำนวนมาก ซึ่งในแต่ละประเทศนั้นจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของภาษี รวมถึงการมีคำสั่งซื้อ ใบกำกับภาษี และการออกรายงาน ที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังมีในเรื่องของพนักงานที่ต้องมีจำนวนเพิ่มขึ้นเช่นกัน การทำงานจึงมีความซับซ้อนขึ้น หาก Dollar General ไม่นำระบบซอฟต์แวร์แบบบูรณาการเข้ามาใช้ แต่ยังคงจะใช้ระบบ Manual อยู่ จะทำให้การทำงานเป็นไปอย่างล่าช้า ยุ่งยาก และมีโอกาสสูงที่จะเกิดความผิดพลาดได้ ทั้งในด้านการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล และการบริหารจัดการคำสั่งซื้อ เป็นต้น ซึ่งในภาวะที่ธุรกิจมีการแข่งขันกันสูงนั้น ความล่าช้าและความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น จะทำให้ Dollar General เสียเปรียบคู่แข่งได้

2. The new system cost several million dollars. Why, in your opinion, was it necessary to install it?

        หาก Dollar General ยังคงใช้ระบบ Manual ในการทำงาน จะทำให้เกิดความล่าช้าและเสี่ยงที่จะเกิดข้อผิดพลาด ซึ่งเป็นข้อเสียเปรียบทางธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจที่มีการแข่งขันกันสูงนี้ แต่หาก Dollar General นำระบบใหม่เข้ามาใช้ จะทำให้ได้รับประโยชน์เป็นอย่างมาก เนื่องจากระบบใหม่นี้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลของฝ่ายต่างๆ เข้าด้วยกัน  ทำให้มีความสะดวกในการสื่อสารข้อมูล และสามารถจัดการกับปัญหาความยุ่งยากซับซ้อนและปริมาณของงานที่เพิ่มมากขึ้นได้อย่างถูกต้องแม่นยำภายในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งการนำระบบใหม่นี้มาใช้ยังเป็นการช่วยลดการเกิด Human error อีกทั้งระบบยังมีความยืดหยุ่นที่สามารถปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มแอพพลิเคชั่นที่สอดคล้องและเหมาะสมกับการทำงานของ Dollar General  ได้ ซึ่งทำให้องค์กรมีความคล่องตัว สามารถรองรับการขยายธุรกิจในอนาคตได้อีกด้วย ดังนั้นเมื่อพิจารณาความคุ้มค่าระหว่างต้นทุนและประโยชน์ที่จะได้รับจากการนำระบบมาใช้ จะเห็นว่า ควรที่จะนำระบบใหม่มาใช้กับการทำงานของ Dollar General เพื่อเป็นการสร้างข้อได้เปรียบให้กับองค์กรทั้งในปัจจุบันและในอนาคตต่อไป

3. Lawson Software Smart Notification Software is being considered by Dollar General. Find information about the software and write an opinion for adoption or rejection.

        Smart Notification Software เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยในเรื่องกระบวนการรายงาน วิเคราะห์ และการรับส่งข้อมูลที่ง่ายต่อการเข้าใจและง่ายต่อการใช้งาน โดยจะเป็นการเชื่อมโยงไปยังบุคคล ข้อมูล และแอพพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้อง ทำให้สามารถตัดสินใจแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที รวมถึง Smart notification จะกำจัดความยุ่งยากซับซ้อน ทำให้ผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาตสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างทั่วถึง ทั้งพนักงาน คู่ค้าทางธุรกิจ และลูกค้า ตัวอย่างเช่น ลูกค้าอาจใช้เพื่อเช็คสต๊อกสินค้าที่ต้องการซื้อ หรือคู่ค้าทางธุรกิจเช็คปริมาณสินค้าในสต๊อกและจัดส่งสินค้าให้ทันที เป็นต้น ซึ่งจะเป็นการช่วยลดการเสียเวลาและค่าใช้จ่าย อีกทั้ง Smart Notification ยังมีความยืดหยุ่นในการปรับให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่ใช้อยู่เดิม และรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้อีกด้วย ดังนั้น Dollar General ที่มีการขยายธุรกิจอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องจึงมีความเหมาะสมอย่างยิ่งที่ควรจะนำ Smart Notification มาใช้ เพื่อประโยชน์ในการลดค่าใช้จ่ายและสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า อันจะนำไปสู่รายได้ที่เพิ่มขึ้นได้

4. Another new product of Lawson is Services Automation. Would you recommend it to Dollar General? Why or why not.

Services Automation เป็นซอฟต์แวร์ที่จะช่วยให้องค์กรบริหารจัดการงาน ทรัพยากร เวลา ค่าใช้จ่าย และเงินทุน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยองค์ประกอบหลักๆ ได้แก่ Opportunity Management ที่จะช่วยบริหารจัดการการส่งสินค้า รายได้ และการพยากรณ์ Capacity ที่เหมาะสมได้, Project Management ที่จะช่วยวิเคราะห์การลงทุนและโอกาสในการลงทุนในเชิงกลยุทธ์ และ Resource Management ที่จะช่วยวิเคราะห์ปริมาณทรัพยากรและแหล่งทรัพยากร หากใช้ร่วมกับ Lawson’s Time and Expense and Billing Features จะทำให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการตัดสินใจ ซึ่งแม้ว่า Dollar General จะได้รับประโยชน์จากการนำซอฟต์แวร์นี้มาใช้ แต่เมื่อมองในภาพรวมแล้ว ซอฟต์แวร์นี้จะมีเหมาะสมกับธุรกิจที่เป็นการผลิตและจัดส่งสินค้ามากกว่าธุรกิจการขายสินค้าอย่าง Dollar General ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้ Dollar General ใช้ Services Automation เพราะอาจจะไม่คุ้มค่ากับต้นทุนค่าซอฟต์แวร์เท่าที่ควร

20101122 Class 3 : Transaction Processing System (TPS)

- TPS (Transaction Processing System) เป็นระบบพื้นฐานที่สำคัญมาก ถือเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ จึงต้องมีการดูแลรักษาความปลอดภัยของระบบ ไม่ให้เกิดความผิดพลาด

- MIS (Management Information System) เป็นระบบที่ต่อยอด ย่อยมาจาก TPS ใช้ดูแลการปฏิบัติการขององค์กร

- DSS (Decision Support System) ต่อยอดมาจาก TPS ช่วยพนักงานในการประมวลผลก่อนการตัดสินใจ

- ESS (Executive Support System) เป็นระบบที่ผู้บริหาร CEO หรือ CFO ใช้ เป็นการสรุปมาจาก TPS อีกที

- Intelligence System ระบบอัจฉริยะจะมีคอมพิวเตอร์มาคิดคำนวณแทนคน

      TPS เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 1950s (ช่วงสงครามโลก) ซึ่งเทคโนโลยีนั้นมาจากที่อเมริกาใช้ในการติดต่อสื่อสารกัน โดยในช่วงแรกจะใช้เป็น code ซึ่งมีไม่กี่คนที่จะนำมาใช้ได้ เนื่องจากมีขนาดใหญ่และมีราคาแพง แต่ในปัจจุบันมีการนำมาใช้มากขึ้น เพราะคนเราสามารถใช้งานระบบได้มากขึ้น มีขนาดเล็กลง ราคาถูกลง และผู้ใช้มี Skill มากขึ้น

      ส่วนใหญ่แล้ว TPS จะใช้กับลักษณะงานที่ซ้ำๆ กัน โดยเมื่อเกิด Transaction ขึ้น เช่น การซื้อวัตถุดิบ การวางบิลลูกค้า การส่งสินค้า เป็นต้น จะต้องมีการเก็บข้อมูลไว้ในฐานข้อมูล และจัดระเบียบรายการการเปลี่ยนแปลง เพื่อใช้ในการประมวลผลต่อไป

ระบบ TPS

1. Realiability ต้องเชื่อถือได้

2. Standardization ทำให้มีมาตรฐานที่แน่นอนจะใช้เป็นตัวหนังสือหรือตัวเลขก็ต้องใช้ให้เหมือนกัน เพื่อนำไปสู่ความน่าเชื่อถือ

3. Controlled Access ต้องมีการจำกัดการเข้าถึงข้อมูล เพื่อไม่ให้ใครก็ตามที่ไม่มีอำนาจไปทำการแก้ไขข้อมูลในระบบ

TPS Characteristic

- ข้อมูลส่วนใหญ่เป็นข้อมูลที่มาจากภายในไม่ใช่ภายนอก

- มีการประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก เพราะในแต่ละวันจะมี Transaction เป็นจำนวนมาก

- มีการประมวลผลข้อมูลเป็นประจำ อาจทำทุกวัน หรือทุกสัปดาห์แล้วแต่ nature ของธุรกิจ

- ต้องมีความสามารถในการเก็บฐานข้อมูลที่เยอะมาก เนื่องจากมี Transaction ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน

- มีการประมวลผลข้อมูลที่รวดเร็ว เนื่องจากมีปริมาณข้อมูลมาก

- ข้อมูลต้องมีโครงสร้างที่ชัดเจน

- ความซับซ้อนในการคำนวณมีน้อยกว่าระบบอื่นๆ

- ต้องมีการรักษาความปลอดภัยของระบบและข้อมูล

- การประมวลผลต้องมีความน่าเชื่อถือสูง เนื่องจากระบบ TPS เป็นระบบพื้นฐานที่สำคัญ หากเกิดความผิดพลาดจะส่งผลต่อความผิดพลาดในระบบอื่นๆ เช่นกัน

วงจรการประมวลผล

      1. Data Entry เป็นขั้นตอนแรกในการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ เช่น POS ใน Supermarket หรือร้านสะดวกซื้อ

      2. Transaction Processing สามารถแบ่งได้เป็น 2 วิธีด้วยกัน คือ แบบ Real time และแบบ Batch โดยแบบ Real time จะเหมาะสมกับการทำธุรกิจ Online ที่ข้อมูลจะถูกประมวลผลในทันที่ อย่างเช่นการทำ E-Commerce ที่ต้องอาศัยความรวดเร็วในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า ในขณะที่การประมวลผลแบบ Batch นั้นไม่จำเป็นต้องทำเป็น Online เพราะข้อมูลจะถูกรวบรวมไว้ แล้วทำการประมวลผลในเวลาที่กำหนด

      3. Database Updating ต้องคำนึงถึงความถูกต้องของข้อมูลและความเป็นปัจจุบันของข้อมูล เพื่อให้สามารถนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ได้ ทั้งนี้ความสำคัญของข้อมูลนั้นจะขึ้นอยู่กับแต่ละอุตสาหกรรมและ Nature ของแต่ละธุรกิจ โดยฐานข้อมูลนั้นจะมีทั้งส่วนที่เป็น Hardware และส่วนที่เป็น Software

      4. Document and report Generation การประมวลผลข้อมูลต้องสามารถออกเป็นรายงานได้ แต่ไม่มุ่งเน้นความสวยงาม เนื่องจากเป็นรายงานที่ใช้กันเป็นการภายในเท่านั้น

      5. Inquiry Processing ต้องสามารถสอบถามข้อมูลได้ โดยผ่าน Internet, Intranets, Extranets หรือ Web Browser เป็นต้น ตัวอย่างเช่น การขอตรวจสอบยอดคงค้างของลูกค้า

      ** วัตถุประสงค์ที่สำคัญที่สุดของระบบ TPS คือ เพื่อผลิตและเตรียมสารสนเทศสำหรับระบบประเภทอื่นๆ เพราะ TPS ถือเป็นระบบพื้นฐานที่สำคัญที่สุดที่จะส่งต่อไปยังระบบอื่นๆ

      ผู้ใช้ระบบ TPS ส่วนใหญ่จะเป็นทุกคนในองค์กร พนักงาน หรือ ผู้จัดการ แต่อาจจะไม่ระดับสูงมาก เพราะถ้าเป็น ผู้จัดการระดับกลางจะใช้ MIS และระดับสูงใช้ ESS

ตัวอย่างของระบบ TPS ในแต่ละฟังก์ชั่นงาน

- ระบบสารสนเทศทางการบัญชี ได้แก่ การประมวลผลคำสั่งซื้อ การควบคุมคลังและการประมวลผลการจัดซื้อ บัญชีลูกหนี้ บัญชีเจ้าหนี้ และบัญชีแยกประเภท เป็นต้น ตัวอย่างเข่น ระบบจะสามารถบอกได้ว่า มียอดลูกหนี้คงค้างเท่าไหร่ ระยะเวลาในการค้างชำระ และประวัติการชำระหนี้ ซึ่งเป็นประโยชน์ในการพิจารณาเครดิตของลูกหนี้ต่อไป

      - ระบบสารสนเทศทางการตลาด ได้แก่ การจัดการฐานข้อมูลลูกค้า และการจัดทำระบบสารสนเทศงานขาย เป็นต้น ได้แก่

Mass customization Dell เป็นผู้ผลิตรายแรกๆ ที่มีการขายคอมพิวเตอร์ออนไลน์ทางอินเตอร์เน็ท และอนุญาตให้ลูกค้าสามารถกำหนดสเป็คของคอมพิวเตอร์ได้ด้วยตนเอง ทำให้ Dell ได้ข้อมูลทางการตลาดมาว่า ลูกค้าประเภทไหน ต้องการสเป็คคอมพิวเตอร์แบบไหน ในทำนองเดียวกัน Jaguar ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ ซึ่งเป็นสินค้าราคาแพง ก็อนุญาตให้ลูกค้าเข้าเว็บไซต์ไปกำหนดลักษณะและสีของรถยนต์ที่ต้องการได้ด้วยตนเอง ดดยทางบริษัทจะจัดส่งไปให้ลูกค้าในภายหลัง

Personalize จะทำให้ทราบว่าลูกค้าต้องการสินค้าอะไร แบบไหน ส่งผลให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี

Advertising and Promotion ได้แก่ การทำการตลาดไปยังลูกค้าเป้าหมายผ่านทางอีเมลล์ เช่น ชอบโหลดเพลงก็ส่งลิงค์แนะนำเพลงไปให้, การขึ้นรถไฟฟ้าที่สามารถใช้บัตรเครดิตจ่ายได้เลย

Improving shopping ได้แก่ การนำ RFID Tag เข้ามาใช้หรือการทำ Self-checkout station ให้ลูกค้าจ่ายเงินด้วยตนเอง

                                นอกจากนี้ระบบยังสามารถบอกคุณลักษณะของสินค้านั้นๆ รวมถึงปริมาณการขาย เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจทำกลยุทธ์ทางการตลาดต่อไปได้อีกด้วย เช่น การนำสินค้าที่ขายไม่ดีไปขายคู่กับสินค้าตัวที่ขายดี เป็นต้น

      - ระบบสารสนเทศด้านทรัพยากรมนุษย์ ได้แก่ การประมวลผลเงินเดือนและคลังข้อมูลทักษะของพนักงาน โดยระบบจะมีการบันทึกว่า พนักงานคนใดยังอยู่กับองค์กร คนใดออกไปแล้ว และออกไปด้วยสาเหตุอะไร นอกจากนี้ยังสามารถบอกได้ว่า พนักงานทำงานกี่ชั่วโมง กี่วัน เงินเดือนเท่าไหร่ เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการต่อไป ตัวอย่างเช่น เว็บ monster.com ที่ใช้ Social network เข้ามา recruit คนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีคนสมัครเยอะ หรืออย่าง Big4 ที่ฝ่าย HR ก็จะใช้ระบบ IT ที่มาคัดคนในเบื้องต้นก่อน ส่วน Island Caretaker คือมีเกาะเล็กๆ เกาะหนึ่งที่ไม่มีใครรู้จัก และอยากทำให้เป็นที่รู้จักจึงประกาศรับสมัครคนทำหน้าที่ดูแลเกาะในอัตราค่าจ้างที่สูงมาก ทำให้คนมาสมัครกันจำนวนมาก จนเกาะแห่งนี้เป็นที่รู้จัก เป็นการใช้ Social media ในการรับสมัครงานและโปรโมตเกาะไปพร้อมๆกัน

      - Web Analytics Tools สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าที่เข้ามาดูเว็บไซต์ได้ว่า เป็นใคร มาจากไหน มีความถี่ในการใช้แค่ไหน ใช้เวลาในแต่ละหน้านานเท่าไหร่ คลิ๊กไปหน้าไหนบ้าง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปทำการตลาดได้ เช่น การทำ Cross-sale สินค้า A, B ถ้าลูกค้าคลิ๊กดูรายละเอียดสินค้า A และ B

      - e-Procurement เป็นระบบการซื้อขายระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ โดย TISCO เริ่มใช้โปรแกรมนี้เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา โดยใช้ในการสั่งซื้อสินค้า ซึ่งเป็นวิธิที่รวดเร็ว สะดวก และประหยัดค่าใช้จ่ายด้านแอดมิน ลดงานของเจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้านการจัดซื้อ เพราะ user มีอิสระที่จะเลือกสั่งซื้อสินค้า แล้วนำไปลิงค์กับ supplier จากนั้นก็ส่งให้หัวหน้า approve และส่งคำสั่งซื้อตรงไปยัง Supplier ได้ทันที ทำให้ได้สินค้าตรงตามที่ต้องการในเวลาอันรวดเร็ว

      - Cirque du Soleil เป็นคณะละครสัตว์ที่ดังที่สุดในโลก มีนักแสดงและ Staff จำนวนมากจากหลากหลายประเทศ และต้องเดินทางไปยังประเทศต่างๆ ตลอดเวลา ได้ใช้ระบบนี้ในการแชรข้อมูล บริหารงานโลจิสติกส์ และ Supply chain เช่น การขนส่งอาหาร และเสื้อผ้า

      - Dartmouth-Hitchcock Medical Center ใช้ระบบ TPS ช่วยให้ไม่ต้องสั่งสินค้าแบบ Overstock

      - แท็กซี่อัจฉริยะ ไม่ว่าจะใช้มือถือหรือโทรศัพทบ้านก็สามารถโทรเรียกแท็กซี่ได้ โดยจะมี GPS ระบุตำแหน่งของแท็กซี่ ทำให้มีความรวดเร็วและปลอดภัย

      - ระบบขนส่งและจราจรอัจฉริยะ ประกอบด้วย 6 ระบบสำคัญ ได้แก่ ระบบการจัดการจราจร ระบบการให้ข้อมูลข่าวสารการเดินทาง ระบบความปลอดภัยในยานพาหนะและการจัดการเหตุฉุกเฉิน ระบบการบริหารจัดการรถสินค้า ระบบการจัดการรถขนส่งสาธารณะ และระบบชำระค่าโดยสาร ค่าผ่านทางอัตโนมัติ

Presentation

      1. RFID (Radio Frequency Identification) คือระบบชี้เฉพาะอัตโนมัติ Auto- ID แบบไร้สาย ซึ่งเป็นวิธีการระบุเอกลักษณ์วัตถุหรือตัวบุคคล โดยใช้คลื่นความถี่วิทยุ ซึ่งมีขีดความสามารถในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในระดับที่น่าเชื่อถือ ตัวอย่างเช่น Walmart ที่กำหนดให้ติด RFID Chip บนหีบห่อ และกล่องบรรจุสินค้าของห้าง ทำให้บริษัททราบถึงการเดินทางของสินค้าได้ทุกระยะ รวมถึงการส่งสัญญาณเตือนให้พนักงานนำสินค้ามาเติมใหม่  ทำให้ Wall Mart ไม่จำเป็นต้องเก็บสต็อกสินค้า และยังช่วยลดปัญหาการโจรกรรมสินค้าและปลอมแปลงสินค้าได้อีกด้วย

      2. Speech Recognition คือระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่สามารถแปลงเสียงพูดให้เป็นข้อความตัวอักษร โดย สามารถแจกแจงคำพูดต่างๆ ที่มนุษย์สามารถพูดใส่ไมโครโฟน โทรศัพท์หรืออุปกรณ์อื่นๆ และเข้าใจคำศัพท์ทุกคำอย่างถูกต้องเกือบ 100% ซึ่งมีข้อดีคือประหยัดเวลาและอำนวยความสะดวก ส่วนข้อเสียคือต้องออกเสียงให้ชัดเจน

      3. Virtualization คือ เทคโนโลยีที่ทำให้ Server 1 เครื่อง สามารถมีระบบปฎิบัติการได้มากกว่า 1 ระบบ โดยมีการสร้าง Layer ของการเชื่อมต่อระหว่างฮาร์ดแวร์กับระบบปฎิบัติการขึ้นมา เรียกว่า Hypervisor หรือ Virtual Machine Monitor (VMM) เพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการให้ระบบปฎิบัติการหลายๆ ตัวในเครื่องสามารถใช้งานทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถช่วยในการลดค่าใช้จ่ายในการซื้อ serverและช่วยให้สามารถใช้งาน server ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการระบบที่ดีขึ้นด้วย โดยข้อเสียคือ ราคาค่อนข้างสูงและยังไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก

      4. How Information Technology Can Help Forensics Accounting? การบัญชีสืบสวนเป็นการใช้ทักษะด้านการเงินและแนวคิดทางด้านการสืบสวนสอบสวน เพื่อใช้ในการตรวจสอบ สืบสวน และสอบสวนข้อมูลทางการเงินเพื่อพิสูจน์หรือเพื่อหาหลักฐานประกอบข้อเท็จจริง เกี่ยวกับการทุจริต ตัวอย่าง Computer Fraud Techniques ได้แก่ Salami Technique คือการปัดเศษทศนิยม โดยการนำเศษมาใส่บัญชีตนเอง, Superzapping ที่สามารถเจาะเข้าไปในระบบกรณีฉุกเฉินได้ทันที ทำให้อาจมีผู้ไม่หวังดีรอจังหวะนี้ในการขโมยข้อมูลหรือแก้ไขข้อมูลต่างๆ ได้ จึงต้องมีการจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ให้รัดกุม ปลอดภัย เพื่อให้ข้อมูลมีความน่าเชื่อถือที่จะนำมาวิเคราะห์ สืบสวน สอบสวนต่อไป

จิราพร พรพัฒนกุลฑล

ID NO. 5202112743

Case Discussion#2 : Building an E-Business at FedEx Corporation

1. Indentifying the networks cited in this case

      FedEX ดำเนินธุรกิจ โดยมีโครงสร้างพื้นฐานเป็นแบบ FedEx Direct Link ผ่านเครือข่ายดังต่อไปนี้

      - Global virtual private Network (VPN) connectivity คือ เทคโนโลยีการเชื่อมต่อเครือข่ายนอกอาคาร (WAN - Wide Area Network) เป็นระบบเครือข่ายภายในองค์กร ซึ่งเชื่อมเครือข่ายในแต่ละสาขาเข้าด้วยกัน โดยอาศัย Internet เป็นตัวกลาง มีการทำ Tunneling หรือการสร้างอุโมงค์เสมือนไว้รับส่งข้อมูล มีระบบเข้ารหัสป้องกันการลักลอบใช้ข้อมูล ทำให้สามารถติดต่อรับส่งข้อมูลระหว่างสาขาทั่วโลกได้

      - Internet connectivity คือ เครือข่ายนานาชาติ ที่เกิดจากเครือข่ายขนาดเล็กมากมาย รวมเป็นเครือข่ายเดียวทั้งโลก หรือเครือข่ายสื่อสาร ซึ่งเชื่อมโยงระหว่างคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ที่ต้องการเข้ามาในเครือข่าย

      - Leased-line connectivity คือ การเชื่อมต่อระบบเน็ตเวิร์คด้วยการใช้สายสัญญาณตรงสู่ปลายทาง ทำให้มีความปลอดภัยสูงเพราะไม่ต้องมีการใช้สื่อกลางร่วมกับผู้อื่น และมีความเร็วคงที่

      - VAN (Value-added network) connectivity เป็นเครือข่ายกึ่งสาธารณะ ซึ่งให้บริการเพิ่มขึ้นจากการติดต่อสื่อสารปกติ มีความเร็วและมีความปลอดภัยมากกว่าเครือข่ายสาธารณะ

2. How does IT improve the performance of FedEx?

      FedEx ใช้ระบบ e-Commerce ที่ผสานการขนส่งเข้ากับระบบสารสนเทศ (IS) เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการเป็นบริษัทขนส่งมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการประสานระหว่าง Selling และ Supply chain เข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นการลดความซ้ำซ้อนและลดต้นทุนให้กับ FedEx ทำให้บริษัทมีกำไรมากขึ้น และจากการที่ FedEx ใช้ระบบ IT ในการดำเนินธุรกิจ ทำให้กระบวนการต่างๆ ทั้งการสั่งซื้อ การจัดเตรียมสินค้า การส่งสินค้า และการติดตามสถานะสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีความน่าเชื่อถือ และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เป็นการสร้างข้อได้เปรียบให้กับ FedEx ซึ่งจะเป็นการดึงดูดลูกค้าให้มาใช้บริการ FedEx มากขึ้น ส่งผลต่อรายได้และกำไรของ FedEx ที่เพิ่มขึ้นด้วย

3. In what ways are personalization and customization provided?

      เนื่องจาก FedEx ใช้ระบบการจัดการที่เป็น Web-based เป็นหลัก โดยอาศัยเครือข่าย Internet ที่เข้าถึงได้ง่าย ทำให้ FedEx สามารถขยายขอบเขตของธุรกิจทั้งในแง่ของ Geography และรูปแบบการให้บริการให้มีความหลากหลายสามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันการที่ลูกค้าสามารถเลือกสรรรูปแบบการให้บริการ กำหนดรายละเอียดต่างๆ ผ่าน FedEx ShipAPI^TM และติดตามสถานะการส่งสินค้าได้ด้วยตนเอง ทำให้ FedEx สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในด้าน Personalization และ Customization ซึ่งเป็นการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าได้

4. What are the benefits to the customers?

      การที่ FedEx นำระบบ IT มาใช้ นอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการดำเนินงานแล้ว ยังให้ประโยชน์แก่ลูกค้าของ FedEx อีกด้วย คือ ช่วยอำนวยความสะดวก รวดเร็ว ถูกต้องแม่นยำ และยังช่วยคลายความกังวลในเรื่องสินค้าสูญหายหรือการไม่ได้รับสินค้า เนื่องจากลูกค้าสามารถเช็คสถานะการส่งสินค้าผ่านทาง Web ได้ และสำหรับลูกค้าที่เป็นองค์กรธุรกิจนั้น สามารถ outsource การขนส่งสินค้าไปยัง FedEx ได้ เป็นการลดต้นทุนการขนส่ง ซึ่งสามารถใช้เป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันได้

จิราพร พรพัฒนกุลฑล

ID No. 5202112743

20101116 : AI613 Class2

      MARY KAY  เป็นตัวอย่างของธุรกิจที่ใช้ระบบ IT ในการทำธุรกิจ โดยใช้ช่องทาง Online ในการติดต่อกับลูกค้า และใช้ระบบ IT ในธุรกิจเพื่อเพิ่มยอดขาย นอกจากนี้ยังมีธุรกิจอื่นๆที่ใช้การสั่งของหรือเช็ค Stock สินค้าผ่านทาง Smart phone ได้ ซึ่งทุกธุรกิจต้องมีระบบ IT และปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีได้ แต่ระบบ IT ก็มิได้เป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ในการดำเนินธุรกิจ

Information systems : concept and Definitions

      Data เป็นเพียงข้อมูลที่เก็บรวบรวมมา เช่น เกรดเป็นข้อมูล แต่เมื่อนำ Data มาผ่านกระบวนการวิเคราะห์ ประมวลผลจะกลายเป็น Information หรือสารสนเทศ เช่น เกรดเฉลี่ยที่เป็นการเอาข้อมูลเกรดมาเฉลี่ยกัน

      ทุกองค์กรจะมี Data อยู่เยอะมาก แต่ไม่สามารถ Capture มาเป็นสารสนเทศได้ทั้งหมด

      การจะเปลี่ยน Data ให้เป็น Information ต้องอาศัย Hardware, Software และเมื่อนำ Information ไปใช้จะกลายเป็น Knowledge

      ระบบ IT ช่วยให้การทำงานต่างๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น ได้แก่ ระบบ Payroll และการเช็คเครดิตลูกค้า เป็นต้น และระบบ IT ยังทำให้เกิดแนวคิดและกระบวนการใหม่ๆ ในธุรกิจได้อีกด้วย

Classification and Evolution of Information System

- Transaction processing system (TPS) เป็นระบบพื้นฐานที่บันทึกข้อมูลไว้เป็นฐานข้อมูล ซึ่งเป็นระบบที่สำคัญที่สุดขององค์กรเลยก็ว่าได้ เช่น ระบบ Payroll ที่ทุกองค์กรน่าจะต้องมี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับองค์กร โดยระบบ TPS จะช่วยในการตัดสินใจแบบ Routine

- Management Information System (MIS) เป็นรบบที่ผู้บริหารระดับกลางใช้เปรียบเทียบ เพื่อตัดสินใจ เช่น เปรียบเทียบยอดขายระหว่างสาขา โดยจะต้องมี Feature ที่เปรียบเทียบกันได้ ซึ่งเมื่อก่อนจะเรียกระบบ MIS ว่า Reporting Information System

   เนื่องจากระบบ TPS เป็นระบบที่สำคัญที่สุดในองค์กร ซึ่งจะนำไปสู่ระบบ MIS ต่อไป ดังนั้นจึงต้องมีมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดขึ้นกับระบบ TPS เพราะหาก TPS ผิดพลาดก็จะส่งผลให้การประมวลผลในระบบ MIS ผิดพลาดไปด้วย

- Decision Support systems (DSS) เป็นระบบที่ช่วยในการตัดสินใจสำหรับองค์กรในสิ่งที่ไม่สามารถตัดสินได้ด้วย ตาเปล่า โดยอาศัยการเก็บข้อมูลจากภายในและภายนอก เช่น บริษัทเดินเรือที่ใช้ระบบนี้ในการดูว่าต้องส่งของเท่าไหร่ ส่งจากไหนไปไหน ซึ่งจะช่วยประหยัดต้นทุนได้

- Group Decision Support System (GDSS) ในการตัดสินใจเป็นกลุ่มคน ไม่ว่ากลุ่มเล็กหรือกลุ่มใหญ่ หากมี IS ที่พร้อม จะทำให้การตัดสินใจมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นการลดความขัดแย้ง

- Executive Support System (ESS) เป็นระบบที่ต่อยอดมาจากระบบ MIS เนื่องจากผู้บริหารไม่มีเวลามาอ่านรายงานในแบบ MIS แต่ระบบ ESS นี้จะใช้สำหรับ Executive ระดับสูงเท่านั้น โดยจะช่วยการตัดสินใจในแง่กลยุทธ์ ซึ่งข้อมูลจะมาจากระบบ TPS, MIS และอื่นๆ มีการใช้ Dashboards ร่วมด้วย

- Enterprise Applications เป็น Software จำพวกบริหารองค์ความรู้ ส่วนใหญ่จะเป็น ERP ระบบนี้จะทำให้ทุกฝ่ายสามารถส่งข้อมูลถึงกัน, Share ข้อมูลกันได้ ซึ่งจะช่วยให้การทำงานสะดวกยิ่งขึ้น

- Supply Chain Management Systems เป็นระบบที่แชร์ข้อมูลและบริหารระหว่าง Supplier กับภายในองค์กร ซึ่งถ้ามีระบบที่ดี จะทำให้สามารถรู้ได้ว่า ของส่งถึงไหนแล้ว

- Customer Relationship Management (CRM) ระบบบริหารความสัมพันธ์ของลูกค้ากับองค์กร ซึ่งต้องการให้ลูกค้าที่ไม่ดีกลายเป็นลูกค้าที่ดี ส่วนลูกค้าที่ดีอยู่แล้วกลายเป็นลูกค้าที่ดียิ่งขึ้น เช่น Salesforce.com ให้บริการ CGRM online ที่สามารถประมวลผลได้เลย เป็น SASS ซึ่งข้อดีของการมี Software online คือสามารถเรียกใช้ข้อมูลจากที่ไหนก็ได้ในโลกที่มี Internet และสามารถพัฒนาให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้ได้

- Knowledge Management System เป็นระบบ IT ที่ เก็บองค์ความรู้ต่างๆ ไว้ในองค์กร เพื่อแชร์ ต่อยอด และนำองค์ความรู้ไปใช้ต่อไปได้ เนื่องจากความรู้ส่วนใหญ่จะอยู่ในตัวบุคคล ถ้าไม่ดึงออกมาเก็ยไว้ในระบบ เมื่อบุคคลออกจากองค์กรก็จะนำองค์ความรู้นั้นติดตัวไปด้วย ทำให้องค์กรสูญเสียองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ไป

  Data + Analysis >> Information + Identify problem, Analyze, Action, Record, Report >> Knowledge + Creative >> Wisdom

- Intranets เป็น เทคโนโลยี ไม่ใช่สารสนเทศ เป็นการใช้อินเตอร์เน็ทภายในองค์กรเท่านั้น ซึ่งมีความปลอดภัยสูงกว่าอินเตอร์เน็ทที่ส่งผ่านข้อมูลกันทั่วโลก ยกเว้นแต่จะมีการ Encrypt ซึ่งคนมักจะไม่ค่อยทำกัน

- Extranets เป็น Network ระหว่างองค์กรที่เป็น Private ซึ่งจะปลอดภัยกว่าแบบ Internet ที่เป็นแบบ Public ที่คนนอกสามารถเจาะระบบได้

- Collaboration Communication System เป็นระบบที่ส่งเสริมความร่วมมือในการติดต่อสื่อสารกันภายในองค์กร ได้แก่ Email, IM, Chat ไม่นิยมใช้ เพราะอันตราย การส่งผ่านข้อมูลที่ไม่ดีจะกระจายไปอย่างรวดเร็ว จึงนิยมใช้ Lotus Note มากกว่า

- Virtual Word โลกเสมือน เช่น Game online

- E-Business การทำธุรกิจสมัยใหม่ที่นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ โดย E-Business จะเป็นการค้าขายระหว่างองค์กร ส่วน E-Commerce จะเป็นการค้าขายระหว่างองค์กรกับลูกค้า และ E-Government ได้แก่ การเสียภาษีออนไลน์

- Web 2.0 คือ Social Media ส่วนใหญ่ Content ที่อยู่ใน Social media จะมาจากผู้ใช้เอง เช่น Facebook ซึ่งจะต่างจาก www เวอร์ชั่นแรกที่ผู้ใช้จะเป็นเพียงผู้บริโภคข้อมูลเท่านั้น ไม่สามารถสร้าง Content เองได้

- Web 3.0 เป็น Intelligent Web สามารถพูดคุยกันได้ เช่น การพิมพ์โต้ตอบเป็นภาษาไทย แต่ไปปรากฏเป็นข้อความภาษาอังกฤษในหน้าจอของผู้รับข้อความ

- Open Source Code Software เป็น Software ที่ไม่ได้พัมนาจากบริษัทใหญ่ๆ ส่วนใหญ่จะพัฒนาโดย Programmer ได้แก่ Mozilla ที่มีความเสถียรกว่า IE ที่พัฒนาจากบริษัทใหญ่ๆ

- Virtualization คือการพยายามทำให้ Server ที่ทำต่างหน้าที่กันมาอยู่รวมกัน แทนที่จะใช้ server แยกและแต่ละ Server ก็ใช้ไม่ 100% ซึ่งการทำเช่นนี้จะทำให้มีความเสถียรมากขึ้น

Presentation

      1. E-Paper แต่ เดิมใช้กระดาษที่มีราคาถูก น้ำหนักเบา แต่ใช้ซ้ำไม่ได้ ต่อมาได้พัฒนาไปใช้คอมพิวเตอรืที่ใช้พลังงานสูง เคลื่อนย้ายลำบาก และไม่สามารถอ่านท่ามกลางแสงแดดได้ และได้พัฒนาเป็นจอ LCD ที่อ่านกลางแดดได้ และก็ได้พัฒนาต่อเนื่องจนมาเป็น E-Paper ในที่สุด ซึ่งมีคุณสมบัติสามารถสะท้องแสงได้เหมือนกระดาษปกติ น้ำหนักเบา ทนทาน อ่านง่าย งอได้และ Update ข้อมูลได้เหมือนคอมพิวเตอร์

      2. Tablet PC เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาสะดวก มีระบบ Touch Screen, Stylus และระบบสั่งด้วยเสียง ซึ่งประมาณปี 1992 Apple ได้ออก Tablet PC แต่ทำออกมาเร็วเกินไป ยังไม่มีใครเข้าใจเทคโนโลยการใช้ Touch screen ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จ แต่ต่อมาก็พัฒนามาจนเป็น IPhone ในปัจจุบัน

      3. Green IT แนวคิดในการบริหารจัดการและเลือกใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การทำ Virtualization และ Data Center ที่จะทำให้ใช้ Server น้อยลง เป็นต้น โดย Green IT จะมี Concept คล้ายๆกับ CSR

จิราพร พรพัฒนกุลฑล
5202112743

20101109 : AI613 Class1

       ในปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology : IS) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในธุรกิจเป็นอย่างมาก ทั้งในส่วน Accounting, Marketing, Finance, Human Resource, Production, Operations, Engineering, R&D, Legal และ PR เป็นต้น โดย IT นั้น มีบทบาทสำคัญในการอำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงต้องมีความรู้ความเข้าใจ IT แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น IT ก็มิได้เป็นสิ่งจำเป็นมากจนขาดไม่ได้ เพราะ IT มิได้เป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการทำธุรกิจ IT เป็นเพียงองค์ประกอบที่คอย Support ธุรกิจหลักเท่านั้น

          

        ความท้าทายของ IT คือ การที่เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทุกๆส่วนขององค์กร ทั้งโครงสร้าง การจัดการ และการดำเนินงานของธุรกิจ ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีจึงเป็นเรื่องยากที่ทุกคนในองค์กรจะยอมรับ เพราะธรรมชาติของคนจะไม่เปลี่ยนอะไรง่ายๆ เนื่องจากต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจกับเทคโนโลยีใหม่

       ธุรกิจในปัจจุบันเริ่มเปลี่ยนไปสู่การทำธุรกิจแบบ “Digital Economy” คือการขายสินค้าหรือบริการในแบบที่จับต้องไม่ได้ เช่น บริการดาวน์โหลด mp3, การขาย Content หรือ application ต่างๆ บนโทรศัพท์มือถือหรืออินเตอร์เน็ท, การซื้อหรือให้เช่าหนังในอินเตอร์เน็ท และโรงพยาบาลที่นำระบบ IT มาใช้ เป็นต้น

        เมื่อมอง IS (Information System) และ IT (Information Technology) จะเห็นว่า มีความใกล้เคียงกันมาก จนมีบางคนกล่าวว่า IS และ IT คือสิ่งเดียวกัน โดย IT จะเป็นส่วนหนึ่งของ IS

        ทุกวันนี้ ธุรกิจเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับ “Green IT” เช่น การใช้คอมพิวเตอร์ให้น้อยลง, ถ้าคอมพิวเตอร์เสียก็จะไม่ทิ้งเลยในทันที แต่จะนำไปซ่อมแซมและนำกลับมาใช้อีก และเทคโนโลยีที่นำมาใช้จะต้องช่วยประหยัดพลังงายและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

        การเป็น First Mover ทางด้าน IT มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ตัวอย่างเช่น Netscape ที่เป็น First Mover ในเรื่องของ Web Browser โดยในช่วงแรกนั้นมีผู้ใช้ Netscape เป็นจำนวนมาก เนื่องจากผู้ใช้ไม่มีทางเลือกมากนัก ทำให้ได้ประโยชน์จากการเป็น First Mover แต่ต่อมากลับมีผู้ใช้ Internet Explorer (IE) เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จน Netscape ได้หายไป ทั้งๆที่ Internet Explorer พัฒนามาจาก Netscape เนื่องจากหาได้ง่ายและการใช้งานก็สะดวกกว่า Netscape

        จะเห็นว่า เทคโนโลยีสารสนเทศนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ประโยชน์ที่ได้จากการเป็น First Mover นั้นไม่มีความยั่งยืน หากไม่มีการพัฒนาให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ดังนั้นการเรียนรู้และการเข้าใจในบทบาทของ IT จะช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น